"เชียร์" สุดทน! โดนหลอกขอสวนหมัดหนักเอาคืน "จิ๊บ" แทบช็อค!! พระเอกขี่ม้าขาว "เต้ย" พาหนีไปสร้างโม้เม้นต์สุดฟินใน "บุพเพร้อยร้าย"
เป็นละครรัก โรแมนติก สุดคอมเมดี้ ที่ออกอากาศไปเพียงตอนแรกก็ได้ฟิตแบ็คว่า “บุพเพร้อยร้าย” ดูไปยิ้มไปเพลินมาก แถมเรื่องยังดูง่าย และสนุกปังๆ น่าติดตามที่สุด รวมไปถึงเคมีการเป็นคู่กัดที่ดูเข้าคู่กันสุดๆ ของ “เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์” และ “เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” จบตอนแรกไปใครจะเลือกอยู่ทีม “ชินกฤต” หรือ “มุกมณี” ไม่รู้? แต่งานนี้ขอมาสปอยล์เรื่องราวของวีคนี้ให้ว้าวๆ กันไปข้างนึง เมื่อ มุกมณี (เชียร์) และ ชินกฤต (เต้ย) ตัดสินใจมาเจรจากับฝั่ง โสภิตา (จิ๊บ ปกฉัตร) เรื่องคดีความ แต่สุดท้าย โสภิตาดันหลอกให้มุกมณีมาร่วมแถลงข่าว เพื่อล็อคคอให้มุกมณีขอโทษเธอผ่านสื่อ ถ้าจะยอมง่ายๆ ก็คงไม่ใช่มุกมณี งานนี้เลยเอาคืนแบบจุกๆ เอาภาพโสภิตาก่อนศัลยกรรมมาโชว์กลางวงแถลงข่าว ทำเอาโสภิตาโกรธมาก!! จะเข้าไปทำร้ายมุกมณี แต่ความไวกว่าของมุกลุกขึ้นสู้ชกหน้าศัลยกรรมของโสภิตากลับแบบเจ็บแต่จบหมดฤทธิ์ไปเล้ย ก่อนที่ชินกฤตเห็นท่าไม่ดีจึงรีบมาพาตัวเธอหนีออกไปหลบนักข่าวกัน 2 ต่อ 2 จากฉากหนี กลายเป็นฉากหวานๆ ได้ยังไงอันนี้ไม่สปอยล์คงต้องติดตาม!!
ในส่วนของเบื้องหลังฉากนี้ต้องบอกว่านักแสดงทุ่มเทกันสุดๆ โดยเฉพาะ “เชียร์” กับ “จิ๊บ” ที่ซ้อมคิวกันก่อนถ่ายแบบตั้งใจมากเวอร์ เพราะกลัวผิดคิวแล้วชกเข้าที่จมูกจริงๆ จะงานเข้าต้องพึ่งศัลยกรรมของแท้ แต่ระดับมืออาชีพ เรื่องจังหวะ เรื่องผิดคิวไม่มีเลยจ๊ะ โชว์สกิลได้หายห่วงมาก ท่าสวย และแม่นมาก เรียกว่า ซ้อมมาเป๊ะยังไง ถ่ายจริงก็ตามนั้นไม่มีเพี้ยน ถัดมาที่ซีนปั้นต่อเนื่อง จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์สุดพิเศษของ เชียร์และเต้ย เมื่อเหตุการณ์คับขันความรู้สึกที่ซ้อนอยู่มันก็พุ่งออกมา ต้องหนียังไงให้เจอรัก คงต้องหนีแบบ เต้ยกับเชียร์ในซีนนี้นี่แหละค่า ความยากไม่ได้อยู่ที่ซีนโรแมนติกตาสบตาแต่อย่างใด แต่เป็นเทคนิคการถ่ายทำที่ต้องใช้โรนิน ทั้งคู่ต้องวิ่งไปวิ่งมาอยู่สามรอบจนเริ่มหอบ แต่เพื่อภาพที่ดูแล้วต้องกริ๊ดดด!! ก็สู้สุดใจ เจ็บแค่ไหนก็อดทน ก่อนจะมาหลบนักข่าวอยู่หลังเสา กลายเป็นโมเม้นต์จิ้นๆ ที่ไม่อยากให้พลาดจริงๆ
แค่เปิดมาสองตอนก็มีเรื่องราวให้ลุ้นกันขนาดนี้แล้ว ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ก่อตัวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากคู่กัดจะกลายคู่กันจริงๆ เมื่อไร?? อย่าลืมติดตามฉากนี้ใน “บุพเพร้อยร้าย” วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 20.30 น. ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3 Plus