บรอดคาซท์ฯ จัดหนัก!! ส่งมนุษย์ต่างดาวสุดหล่อ "ณเดชน์" ประกบนางเอกซุปตาร์ "แมท" เอาใจแฟนๆ ซีรีส์เกาหลี ใน "ลิขิตรักข้ามดวงดาว" เวอร์ชั่นไทย 2019
สิ้นสุดการรอคอยกันแล้ว สำหรับซีรีส์เกาหลี “You Who Came From the Stars” ที่โด่งดังเป็นพลุแตก ล่าสุดในปี 2562 “หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์” แห่งค่าย “บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น” ก็พร้อมแล้วที่จะให้แฟนละครชาวไทย ได้รับชม “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” หรือ “My Love From Another Star” ในเวอร์ชั่นไทย ที่ “พี่หน่อง” ทุ่มทุนบินตรงไปซื้อลิขสิทธิ์ถึงประเทศเกาหลี ซึ่งได้ “ใหม่-ภวัต พนังคศิริ” ผู้กำกับผลงานโด่งดังอย่าง “บุพเพสันนิวาส” มากำกับการแสดง และยังได้ผู้เขียนโทรทัศน์ในเวอร์ชั่นไทยอย่าง “สุธิสา วงษ์อยู่” �อีกทั้งยังได้ฉายพร้อมประเทศจีน เตรียมสร้างชื่อให้กับละครผลงานคนไทย ที่เทียบเท่าต้นฉบับเกาหลี และยังเป็นการจับคู่ของ 2 ซุปเปอร์สตาร์ตัวจริงของเมืองไทยอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่มารับบท “อชิระ” มนุษย์ต่าวสาวสุดหล่อ และ “แมท-ภีรนีย์ คงไทย” รับบท “ฟ้ารดา” ซุปเปอร์สตาร์สาวสวย ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “มาสุ จรรยางค์ดีกุล, กมลเนตร� เรืองศรี เดี่ยว-สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล, ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม, ปุ๊-มนตรี เจนอักษร, ก๊อต-อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์, หมู-พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ, น้ำฝน-สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ, โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์� บุญประชม, กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์� ชี, เอ-อนันต์ บุนนาค, หยวน-กวินรัฏฐ์� ยศอมรสุนทร, กบ-ทรงสิทธิ์� รุ่งนพคุณศรี, ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ, เอ๊ดดี้ เฮง และ เปรี้ยว-อนุสรา วันทองทักษ์”
งานนี้พระเอกของเรื่องอย่าง “ณเดชน์” ได้พูดถึงบทบาทที่ได้รับไว้ว่า “ทันทีที่ทางผู้ใหญ่ติดต่อมาผมก็ตอบรับทันทีเลย เพราะโอกาสที่จะได้แสดงละครที่เป็นบทประพันธ์ของต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องยาก ซึ่งถือว่านี่เป็นโอกาสที่ดี และต้องมารับบทมนุษย์ต่างดาวที่พลัดหลงอยู่บนโลกมาหลายร้อยปี จนมาถึงช่วง 3 เดือนสุดท้าย แต่เขามีเรื่องคาใจ เพราะเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เขาได้เจอกับเด็กผู้หญิงคนนึง หน้าเหมือนหญิงสาวที่ที่เขารักในอดีตชาติ ในใจเลยคิดว่าก่อนจะจากโลกนี้ไป เขาอยากเจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ผมอยู่บนโลกตั้งแต่ยุคพระนารายน์ ต่อมาด้วย รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 แล้วก็ปีพ.ศ. 2499 ก็จะได้เห็นในช่วงต้นเรื่องถึงความแตกต่างของผมในแต่ละยุค ซึ่งตัวผมเองไม่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้ในเวอร์ชั่นเกาหลีนะครับ แต่เรื่องนี้ถือเป็นการรวมหลายๆ อย่าง หลายรสชาติ อยากให้ทุกคนได้ดู และตัวละครนางเอกก็น่ารักมากๆ อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจ นอกจากนี้ผมยังได้ร้องเพลงประกอบละครด้วยชื่อเพลงรักที่รอวันลาอีกด้วย”
ด้านนางเอกสาว “แมท” ก็เผยถึงคาเรกเตอร์และความรู้สึกที่มีต่อละครเรื่องนี้ว่า “ในเรื่องเราต้องรับบทซุปเปอร์สตารที่โด่งดังมากที่สุดในไทย และเอเซีย (แซว) เรียกว่าไกลตัวมาก แต่ส่วนตัวค่อนข้างจะเป็นคนที่ล้นๆ ทำอะไรเวอร์ๆ มีความจริงจังในชีวิต แต่ก็แอบตลกอยู่บ้าง ซึ่งอันนี้ใกล้ตัวขึ้นมาหน่อย จนชีวิตเข้าสู่ช่วงตกต่ำในชีวิตนักแสดง จนได้มาเจอกับพระเอก เรื่องนี้แมทโชคดีได้พี่ใหม่ผู้กำกับช่วย เพราะเรามีความคิดไปในทางเดียวกัน มีมุขตลกๆ เหมือนกัน ซึ่งเรื่องตลกเราถนัดอยู่แล้ว แต่ก็มียากในช่วงแรกบางเพราะตัวละครฟ้ารดาจะต้องเป็นคนที่ไม่ค่อยฉลาดนัก แต่สบายตาของแมทจริงๆ เวลาเล่นจะดูมีอะไรตลอดเวลา เลยต้องปรับให้สายตาดูอินโนเซ้นขึ้น แต่ต้องบอกแมทดูซีรี่ย์เรื่องนี้เวอร์ชั่นเกาหลีมาประมาณ 4 รอบ แล้วพอรู้ว่าจะได้รับบทก็แบบ เฮ้ย! เหมือนที่เราฝันเลยเวลาเราดูเล่นแล้ว เราอยากเป็นตัวนี้ทั้งตลกทั้งสวยด้วย แถมเรื่องนี้พี่หน่องก็จัดแฟชั่นของฟ้ารดาแบบจัดเต็ม”
ฟาก “พี่ใหม่” ผู้กำกับเผยถึงการได้กำกับละครฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ว่า “ละครเรื่องนี้เป็นละครโรแมนติก แฟนตาซี แล้วก็มีปนดราม่านิดๆ เรื่องนี้สำหรับผมที่ยากคือ มันเป็นละครที่ต้องรีเมคเกาหลี เราต้องทำให้สิ่งที่ดีของเขายังอยู่ และขยายความบางฉากบางซีนให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวนักแสดงอย่าง แบร์ที่รับบทอชิระที่เป็นมนุษย์ต่างดาวผมก็บอกแบร์ว่าไม่อยากให้มันแข็งเกินไป จนเป็นต่าวดาว 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเขาอยู่บนโลกมานานพอที่จะศึกษาชีวิตมนุษย์โลกได้แล้ว ส่วนแมทช่วงแรกเรายอมรับว่ายังไม่ค่อยมีความเข้าใจกัน จนได้คุยได้เปิดใจ เลยให้แมทเป็นตัวของตัวเอง มันจะออกมาดีที่สุด ให้เขาอิสระที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ซึ่งมันคือฟ้ารดาในตัวของแมทเลย ส่วนเทคนิดการถ่ายทำเรื่องนี้ก็จะมีความแปลกใหม่อยู่ อย่างภาพ การใช้กล้อง แสง มุมกล้อง เพื่อให้จินตนาการของคนดูไหลไปได้เต็มที่ โดยเฉพาะสเปเซียลเอฟเฟ็กต์ซีจีเยอะมาก รับประกันว่าเปิดมาตอนแรกซีนแรกทุกคนจะประทับใจว่าเราคนไทยทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ อย่างในเวอร์ชั่นไทยก็จะมีซีนที่ได้เห็นหิมะตกกันด้วย แต่เป็นหิมะที่เกิดขึ้นเพื่อคนๆ นึง อันนี้ต้องไปติดตามชมกันในเรื่องว่าเกิดจากใคร และเพราะอะไร จะโรแมนติกขนาดไหน ต้องไม่ควรพลาดครับ”
โดยเรื่องราวของละคร "ลิขิตรักข้ามดวงดาว" �เกิดขึ้นปีพ.ศ. 2231 ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา อชิระ มนุษย์ต่างดาวหนุ่มสุดหล่อเดินทางเข้ามาสำรวจทรัพยากรบนโลกพร้อมกับหมู่คณะ แล้วเขาก็ได้พบกับ แม่หญิงบัว แม่หญิงวัย 15 ปีผู้ที่ทำให้อชิระรู้จักกับคำว่าความรักและความตาย วันนั้นเธอเกือบจะพลัดตกจากหน้าผา แต่อชิระไปช่วยไว้ได้ทัน ทำให้อชิระไม่สามารถกลับไปขึ้นยานได้ทันเวลา เขาจึงติดค้างอยู่บนโลกนี้นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน คือปีพ.ศ. 2563 รวมแล้วเป็นเวลาถึง 300 กว่าปี� ที่ผ่านมาอชิระใช้ชีวิตผ่านหลายยุคหลายสมัย เพียงเพื่อรอให้ถึงเวลาที่เขาจะได้เดินทางกลับไปยังที่ๆเขาจากมา และแล้วเวลานั้นก็มาถึงเมื่อทางสถาบันดาราศาสตร์ของต่างประเทศแจ้งว่า ในอีกประมาณสามเดือนข้างหน้านี้จะมีดาวหางโคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบหลายร้อยปี ซึ่งการเดินทางมาของดาวหางเหล่านั้นจะช่วยให้อชิระเดินทางกลับไปยังดาวของเขาได้ อชิระเฝ้ารอคอยเวลานี้มานานแสนนาน เขากำลังจะจากโลกนี้ไปอย่างสบายใจ เพราะเขาไม่มีพันธะผูกพันทางใจหรือทางกายกับใครเลย แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อ อชิระได้พบกับ ฟ้ารดา ซุปเปอร์สตาร์สาวเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ฟ้ารดาเพิ่งย้ายมาอยู่ห้องติดกับเขาและสร้างปัญหาปวดหัวให้เขาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน อชิระไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับฟ้ารดาเลย จนกระทั่งเขาได้เห็นรูปวัยเด็กของฟ้ารดาว่าเธอมีหน้าตาเหมือนแม่หญิงบัวไม่มีผิดเพี้ยน! อชิระพยายามคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น แต่ยิ่งได้รู้จักฟ้ารดามากขึ้น เขายิ่งแน่ใจว่าฟ้ารดากับแม่หญิงบัวเป็นคนๆเดียวกัน แต่อชิระกำลังจะต้องจากโลกนี้ไปแล้ว อชิระพยายามหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับฟ้ารดา แต่เขาดันไปรู้ว่ามีใครบางคนกำลังปองร้ายชีวิตของฟ้ารดา เมื่อรู้เช่นนั้นแล้วอชิระจะช่วยเหลือฟ้ารดาให้รอดพ้นจากอันตรายครั้งนี้หรือไม่ ในเมื่อเขารู้ดีแก่ใจว่ายิ่งเขามาใกล้ชิดฟ้ารดามากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งรักเธอมากเท่านั้น หรือเขาจะเลือกไม่ยุ่งกับเธอ...ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตาของใครของมัน เพื่อที่เขาจะได้จากโลกนี้ไปได้อย่างสบายใจเหมือนเดิม�� สุดท้ายอชิระจะตัดสินใจอย่างไร
รับประกันว่าเคมี “ณเดชน์-แมท” จะทำให้ความฟินทะลุปรอทอย่างแน่นอน “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” เวอร์ชั่นไทย 2019 พร้อมแจกความฟินตอนแรก วันอังคารที่ 17 กันยายนนี้ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และ ช่อง 33 แน่นอน