ตอนที่ 1 |
พระวิจิตรจินดา ฝันถึงชาติก่อน
ว่าเป็นนายพรานป่า กำลังเข้าป่าล่าสัตว์กับสุดไพร สหายคนสนิท พระวิจิตจินดาตามหากวาง
จนเข้าเขตป่าหิมพานต์ วิจิตรจินดาไม่ฟังเสียงห้ามของสุดไพร เข้าไปในนั้น
แล้วพบกับพญานาค เกิดการต่อสู้กัน พญานาค พ่นพิษใส่ แต่วิจิตรจินดาหลับได้
วิจิตรจินดาใช้ธนูยิงพยานาคตายก่อนจะถูกพญานาคล้มทับ
พระวิจิตจินดาสะดุ้งตื่น รู้สึกไม่สบายพระทัย
เพราะว่าฝันมาหลายครั้งแล้ว
วันต่อมา พระวิจิตรจินดาลาท้าวกาลศึก
และพระนางประไพ ออกประพาศป่า พร้อมด้วยพระสหาย ซึ่งการประพาศป่าครั้งนี้
พระวิจิตรจินดารู้สึกคุ้นกับป่าแห่งนี้มาก ราวกับเคยได้มาก่อนหน้านี้แล้ว
พระวิจิตรจินดาล้มลงที่หินก้อนหนึ่งแล้วหมดสติไป ทำให้พระสหายตกใจมาก
|
ตอนที่ 2 |
พระสหาย ได้พาพระวิจิตรจินดากลับมาที่วัง
หมอหลวงบอกว่าวิจิตรจินดาสิ้นพระชนม์แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
ของท้าวกาลศึกและพระนางประไพ จึงได้เรียกโหรหลวงมาเฝ้า
โหรหลวงทำนายไว้ว่า พระโอรสเคยสร้างกรรมไว้แต่ปางก่อนด้วยการประหารพญานาคตาย
ทำให้ถูกพิษจากพญานาค ที่คายทิ้งไว้ ทำให้พระวิจิตรจินดาสิ้นพระชนม์
แต่พระโอรสสามารถฟื้นขึ้นมาใหม่ ก็ต่อเมื่อได้รับความช่วยเหลือ จากธิดากษัตริย์ต่างเมือง
ซึ่งเคยเป็นเนื้อคู่กัน
ท้าวกาลศึกจึงนำพระศพพระโอรส
ไปไว้บนพลับพลาในอุทยาน และบนบานให้เทวดา ช่วยรักษาพระโอรส และรอคอยให้พระธิดาจากต่างเมืองมาช่วย
โดยไม่รู้แม้แต่น้อยว่าพระธิดาเป็นใคร
ที่นครโลมวิสัย ท้าวหัสวิชัย
รอการประสูติ ซึ่งพระนางเกษณี ได้ประสูติพระธิดา พร้อมด้วยเรือนทองวิเศษ
ทำจากได้โสน สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน
|
ตอนที่ 3 |
พระสหาย ได้พาพระวิจิตรจินดากลับมาที่วัง
หมอหลวงบอกว่าวิจิตรจินดาสิ้นพระชนม์แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ
ของท้าวกาลศึกและพระนางประไพ จึงได้เรียกโหรหลวงมาเฝ้า
โหรหลวงทำนายไว้ว่า พระโอรสเคยสร้างกรรมไว้แต่ปางก่อนด้วยการประหารพญานาคตาย
ทำให้ถูกพิษจากพญานาค ที่คายทิ้งไว้ ทำให้พระวิจิตรจินดาสิ้นพระชนม์
แต่พระโอรสสามารถฟื้นขึ้นมาใหม่ ก็ต่อเมื่อได้รับความช่วยเหลือ จากธิดากษัตริย์ต่างเมือง
ซึ่งเคยเป็นเนื้อคู่กัน
ท้าวกาลศึกจึงนำพระศพพระโอรส
ไปไว้บนพลับพลาในอุทยาน และบนบานให้เทวดา ช่วยรักษาพระโอรส และรอคอยให้พระธิดาจากต่างเมืองมาช่วย
โดยไม่รู้แม้แต่น้อยว่าพระธิดาเป็นใคร
ที่นครโลมวิสัย ท้าวหัสวิชัย
รอการประสูติ ซึ่งพระนางเกษณี ได้ประสูติพระธิดา พร้อมด้วยเรือนทองวิเศษ
ทำจากได้โสน สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน
|
|
ตอนที่ 4 |
เจ็ดปีผ่านไป หลังการสวรรคตของพระวิจิตรจินดา
ท้าวกาลศึก และมเหสีต่างก็หมดหวังที่จะช่วยพระโอรส โหรบอกว่ามีนิมิตหมายที่ดี
มีเนื้อคู่ของพระโอรสจะมาถึง
โสนน้อย วัย 15 พรรษา หลงเข้าไปในสวน
ได้เจอชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ ทั้งสองได้เจอกัน แต่โสนน้อยก็จับตัวชายหนุ่มไม่ได้
โสนน้อย สะดุ้งตื่น เล่าความฝันให้ข้าราชบริพานดนตรีในบ้านฟัง
ทุกตัวกลับไม่สนใจ เอาแต่เล่นดนตรีของตัวเอง
โหรทำนายว่า พระธิดาจะได้พบเนื้อคู่
เป็นคนที่ตายแล้วนับว่าเป็นกาลกิณีแก่บ้านเมือง ต้องเสด็จออกไปอยุ่ป่า
จึงจะพ้นเคราะห์
|
|
ตอนที่ 5 |
โสนน้อย ออกจากเมืองดั้นด้นไปในป่าด้วยความลำบากและเศร้าสร้อย
เพียงลำพัง พวกวงมโหรีมีนิมิตรู้ความเป็นไปของโสนน้อยก็เป็นห่วง
จึงบรรเลงเพลงเศร้า ดังไปถึงสวรรค์
พระอินทร์ฟังแล้วไม่สบายใจ
จึงได้หาทางช่วย โดยแปลงเป็นชีปะขาว นำยาวิเศษที่รักษาคนตายมาให้โสนน้อย
โสนน้อยเดินทางไปเจอชะมดตาย
เกิดความสงสาร จึงเอายาวิเศษช่วยชุบชีวิต ชะมดจึงขอติดตามโสนน้อยไม่ยอมห่าง
|
|
ตอนที่ 6 |
โสนน้อยเดินทางต่อไป จนพบศพนางกุลา
จึงได้ชุบชีวิตนางกุลาขึ้นด้วยความสงสาร นางกุลาจึงขอติดตามเป็นทาสรับใช้
ชะมดไม่ไว้วางใจกุลา แต่กุลาก็ทำเป็นใจดีรักสัตว์ เอาอาหารมาให้กิน
โสนน้อย กุลา และคณะ เดินทางมาถึงเมืองนพรัตน์
และได้ทราบข่าวของพระวิจิตรจินดา
โสนน้อยพากุลาเข้าวัง เพื่อถวายการรักษาเจ้าชาย
เหล่าพี่เลี้ยงกำนัล รีบไปทูลท้าวกาลศึก ทำให้ท้าวกาลศึกดีใจมาก
และประกาศให้รางวัลอย่างงาม
|
|
ตอนที่ 7 |
นางสนมพาโสนน้อยไปยังพลับพลาที่ประทับของเจ้าชาย
โสนน้อยได้เจอเจ้าชาย ทำให้นึกถึงความฝัน และรู้สึกหลงรัก นางกุลาก็หลงรักเจ้าชายเหมือนกันและเริ่มคิดไม่ดี
พิธีชุบชีวิตได้เริ่มขึ้นท่ามกลางความตื่นเต้นของท้าวกาลศึกและมเหสี
โสนน้อยบอกให้กุลาช่วยไปบอกให้คนเตรียมผ้าม่านเจ็ดชั้น กั้นรอบพลับพลาไว้
กุลาได้ทีก็เลยไปกราบทูลเอง
พิธีเริ่มขึ้น โสนน้อยห้ามทุกคนเข้าใกล้
โสนน้อยนำเครื่องทรงกษัตริย์มาสวม เพื่อให้เหมือนกับความฝัน แต่คราวนี้โสนน้อยเชื่อว่าเจ้าชายจะไม่หายไปไหนและตนสามารถคว้าเจ้าชายได้
นางกุลาเฝ้าดูอยู่ข้างนอก
และรู้สึกอิจฉาโสนน้อย
|
|
ตอนที่ 8 |
นางกุลาจะแอบบเข้าไปดูข้างใน
แต่ถูกชะมดขวางไว้
โสนน้อยเอายาวิเศษชโลมตัวเจ้าชาย
ทันใดนั้น พิษพญานาคก็ลอยออกมาจากตัวเจ้าชาย
ด้วยความตกใจ โสนน้อยวิ่งออกมาจากพลับพลา
บอกว่าถูกพิษพญานาค ต้องรีบอาบน้ำ พร้อมทั้งถอดชุดฝากไว้กับกุลา
กุลามองดูชุดพร้อมกับคิดแผนการชั่วร้าย ชะมดขู่ กุลารีบเอาถุงผ้าคลุมชะมดขังไว้
พลับพลาที่ประทับ เจ้าชายยังสลบอยู่
นังกุลาแอบเข้ามาแล้วหยิบขวดยาชโลมเจ้าชาย
เจ้าชายฟื้นมาเจอนางกุลา นางกุลารีบสวมรอยทันที
|
|
ตอนที่ 9 |
ชะมดรีบไปบอกโสนน้อย โสนน้อยรีบวิ่งกลับมา
นางกุลาออกมาบอกอำมาตย์ว่าเจ้าชายฟื้นแล้ว
ท้าวกาลศึกและมเหสีดีใจมาก
โสนน้อยได้ยินเสียงดนตรีดังขึ้น
จึงรีบวิ่งมา พบว่านางกุลาในเครื่องทรง จูงมือเจ้าชายออกมาหาท้าวกาลศึก
และมเหสีที่กำลังดีอกดีใจ นางกุลารีบแอบอ้างทันที พอโสนน้อยถามว่าทำไมเอาเครื่องทรงของตนมาใส่
นางกุลารีบด่าว่าโสนน้อย และบอกว่าอย่าไปสนใจนางรับใช้ ที่มีสติไม่ดี
ทุกคนไปเฉลิมฉลองกัน ทิ้งโสนน้อยไว้
ท้าวกาลศึกขอบใจนางกุลา แต่ก็สงสัยว่า
ทำไมจึงตัวดำผิดกับคนใช้ที่ดูมีราศีกว่า นางกุลาอ้างว่าเดินทางมาไกล
เนื้อตัวก็เลยดำเป็นธรรมดา
โสนน้อยรู้ตัวว่าเสียทีนางกุลา
แต่จำต้องนิ่งเงียบเอาไว้ ไม่กล้าจากไป เพราะนึกถึงพระวิจิตรจินดา
|
|
ตอนที่ 10 |
วิจิตรจิดา ไม่อยากเชื่อว่านางกุลาเป็นเนื้อคู่
แต่ท้าวกาลศึกบอกว่าโหรทำนายไว้ถูกต้อง และนางกุลาก็ได้ชุบชีวิตขึ้นมาตามคำทำนายทุกประการ
นางกุลาได้ทีสั่งให้โสนน้อยเลี้ยงเป็ดไก่
อยุ่ใต้ถุนตำหนักไม่ให้พบผู้คน โดยให้ทหารคุมไว้
ท้าวกาลศึกจึงรับเป็นว่าที่สะใภ้หลวงไว้ก่อน
เพราะไม่แน่ใจในหน่อเชื้อกษัตริย์ของนางกุลา และหาทางตรวจสอบ โดยให้นางกุลาทำบายศรีถวาย
ถ้านางกุลาเป็นชาววังต้องทำได้
นางกุลารับคำเป็นอย่างดีว่าจะทำมาถวายสวยงาม
นางกุลาพยายามทำแต่ไม่ได้ จึงโยนข้าวของสำหรับทำบายศรีทิ้งหน้าต่าง
โสนน้อยที่กลายมาเป็นคนใช้เห็นเข้า
ก็เก็บมาทำบายศรีเจ็ดชั้นสวยงาม นางกุลามาเห็นก็เลยรีบแย่างไปถวายทันที
|
|